วันอาทิตย์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2559

10 นักเตะเบอร์ 10 ที่ดีสุดของโลกตลอดกาล

10. เอนโซ ฟรานเชสโคลี
ไม่น่าแปลกใจที่นักเตะเจ้าของฉายา “เอล ปรินซิเป้” หรือ “เลอ แปรงซ์” จะติดโผ เพราะหลังจากระเบิดฟอร์มสุดยอดในลีกอาร์เจนตินา ฟรานเชสโคลี ย้ายมาค้าแข้งในฝรั่งเศส พร้อมกับโชว์ผลงานคู่ควรกับตำแหน่งจอมทัพหมายเลข 10  เขาถือเป็นอีก 1 ตำนานนักเตะของโลกฟุตบอล ในสมัยเป็นวัยรุ่นถูก เปญารอล ทีมยักษ์ใหญ่ของอุรุกวัยในบ้านเกิดปฏิเสธฝีเท้า จนต้องข้ามพรมแดนไปพิสูจน์ตัวเองกับริเวอร์เพลท ในลีกอาร์เจนตินา ซึ่งที่นั่น ฟรานเชสโคลี พาทีมคว้าแชมป์ลีก 5 สมัย และโคปา ลิเบอร์ตาดอเรสคัพ 1 สมัย ก่อนได้รับความสนใจจาก ยูเวนตุส ที่หวังดึงไปประสานงานกับ “นโปเลียนลูกหนัง” มิเชล พลาตินี แต่เขากลับเลือกย้ายสร้างความสำเร็จกับ โอลิมปิก มาร์กเซย ที่ฝรั่งเศส และกลายเป็นขวัญใจแฟนบอลโอแอม และแฟนบอลคนสำคัยของมาร์กเซย 1 ในนั้นคือ ซีเนอดีน ซีดาน ที่นำชื่อ เอ็นโซ มาตั้งชื่อให้ลูกชายคนโตฟรานเชสโคลี มีสไตล์การเล่นคล้ายๆกับ ซีดาน สามารถเล่นฟุตบอลได้ทั้ง 2 เท้า  จังหวะพลิกบอล- ล็อคบอลเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ยังทำประตูสวยๆทั้งโอเวอร์เฮดคิก และประตูมหัศจรรย์อีกหลายต่อหลายลูก ส่วนระดับชาติ “เอล ปรินซิเป้” พาทีมจอมโหดไปฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย 2 สมัย, ได้แชมป์โคปา อเมริกา 3สมัย โดยเฉพาะในปี 1995 พาทีมครองตำแหน่งเจ้าทวีอเมริกาใต้ ก่อนประกาศอำลาทีมชาติอย่างยิ่งใหญ่
9.ไมเคิล เลาดรูป
ในยุคของ เลาดรูป หลายชาติในยุโรปมีนักเตะในแบบฉบับจอมทัพ อังกฤษ มี เกลนน์ ฮอดเดิล,เบลเยียม มี เอ็นโซ ซีโฟ ขณะที่ ฮอลแลนด์ ก็ไม่เคยขาดนักเตะสร้างสรรค์เกมไล่ตั้งแต่ รุด กุลลิท จนถึงยุคของ เดนนิส เบิร์กแคมป์ แต่สำหรับโซนยุโรปตอนเหนือ มักไม่ค่อยได้เห็นนักเตะสไตล์เพลย์เมกเกอร์ หมายเลข 10 กระทั่งโลกลูกหนังได้รู้จักกับ ไมเคิล เลาดรูป 1 ในนักเตะเพียงไม่กี่คนที่ได้เล่นกับ บาร์เซโลนา และเรอัล มาดริด คู่ปรับแห่งวงการฟุตบอลสเปน โดยสมัยที่อยู่กับบาร์ซ่า ไมเคิล เลาดรูป เป็นหนึ่งดรีมทีมของ โยฮัน ครัฟฟ์ และได้กลายเป็นอีกหนึ่งตำนานของทีมดังแห่งถิ่นคัมป์ นู ขณะที่ ฮอร์เก้ บัลดาโน กุนซือเรอัล มาดริด ในยุคนั้นยกย่อง เลาดรูป ว่าเล่นบอลฉลาด เอาตัวรอดได้เสมอ ราวกับว่ามีตาอยู่รอบตัว น่าเสียดายที่ เลาดรูป ไม่ได้ชื่นชมความสำเร็จและเกียรติยศในฐานะแชมป์เมเจอร์มากนักเนื่องจากมีปัญหากับกุนซือ โดยในปี 1992 เขาไม่ลงรอยกับ ริชาร์ด โมลเลอร์ นีลเซน จนถูกขับออกจากทีมชาติเดนมาร์ก ชุดที่สร้าง “เทพนิยายเดนส์” คว้าแชมป์ยูโร 1992 นอกจากนี้ เลาดรูป มีปัญหาส่วนตัวกับ โยฮัน ครัฟฟ์ ทำให้ไม่มีชื่อร่วมทีมบาร์เซโลนา ลงเล่นนัดชิงปี 1994 ที่แพ้ เอซี มิลาน แบบราบคาบ
8.ลิโอเนล เมสซี
แม้ว่า เมสซี่ จะได้รับการยกย่องว่าเป็น 1 ในนักเตะที่ดีที่สุดตลอดกาล แต่สไตล์การเล่นของเขาไม่ใช่แบบฉบับจอมทัพหมายเลข 10 โดยในช่วงก้าวสู่ทีมชุดใหญ่ เมสซี สวมเบอร์ 19 ก่อนเปลียนมาเป็นเบอร์ 10 แทนที่ โรนัลดินโญ เจ้าของเดิมในฤดูกาลปี 2008 แต่หากพูดถึงรากฐานฟุตบอลในอดีต นักเตะหมายเลข 10 คือคนที่จะทำเกมอยู่ด้านหลังกองหน้า ทว่าวิธีการเล่นของ เมสซี่ คือความมีอิสระในเกมรุก บ่อยครั้งจะขยับมายืนทางริมเส้นฝั่งขวา และลากบอลเข้าไปทำประตู  ซึ่งหากนำสไตล์การเล่นของ เมสซี มาเปรียบเทียบกับ ดิเอโก มาราโดนา เทพเจ้าแห่งวงการฟุตบอลอาร์เจนไตน์ จะเห็นความแตกต่างชัดเจน  มาราโดนา เปี่ยมไปด้วยพละกำลัง,ฝีเท้า,ทักษะการเลี้ยงบอล และวิสัยทัศน์ในการทำเกม การสืบทอดตำนานหมายเลข 10 ของ มาราโดนา ในทีมชาติอาร์เจนตินา หลายคนมองว่า เมสซี่ โชว์ฟอร์มได้ไม่โดดเด่นเหมือนกับการเล่นให้ บาร์ซา ต้นสังกัด หากดูจากค่าเฉลี่ยการทำประตูต่อเกมระหว่างทีมชาติเปรียบเทียบกับสโมสร ในช่วง 6 ปีหลังสุด
7.ซิโก้
1 ในสุดยอดนักเตะ ที่ไม่เคยสัมผัสแชมป์ฟุตบอลโลก ชื่อเต็มของเขาคือ อาร์เธอร์ อันตูนเญส โคอิมบรา ก้าวขึ้นเป็นนักเตะที่ดีที่สุดตลอดกาลของ ฟลาเมงโก้ ด้วยทักษะและพรสวรรค์ รวมทั้งความเร็วที่เจ้าตัวได้ทักษะนี้มาจากการเล่นฟุตซอล ถึงขนาดที่ ฮอร์เกน เบนอร์ ศิลปินดังของบราซิล แต่งเพลง “Camisa 10 da Gavea” เพื่อเป็นเกียรติให้จอมทัพรายนี้  หลังจากนั้นย้ายมาค้าแข้งในอิตาลีกับ อูดิเนเซ ในกัลโช เซเรีย อา  ในปี 1983 ได้ตำแหน่งรองดาวซัลโวของลีก เป็นรอง มิเชล พลาตินี จอมทัพของม้าลาย ยูเวนตุส แต่ส่วนหนึ่งมาจากการที่ ซิโก้ ลงสนามน้อยกว่า พลาตินี  ส่วนกับทีมแซมบ้า ผลงานดีสุดคือการพาทีมคว้าอันดับ 3 ฟุตบอลโลกปี 1978 นักเตะเจ้าของฉายาเปเล่ขาว มีทักษะเรื่องการทำประตู,สร้างสรรค์โอกาส และการเลี้ยงบอลที่ยอดเยี่ยม น่าเสียดายที่รางวัลความสำเร็จในนามทีมชาติน้อยเกินไป
6.จอร์จี้ ฮารจี้
นักเตะเจ้าของฉายา “มาราโดนา แห่งคาร์ปาเธียน” ถือเป็นฉายาที่ไม่เกินเลยความจริง ด้วยสไตล์การเล่นที่สวยงาม, ความดุดัน รวมทั้งเท้าซ้ายที่รังสรรค์ฟุตบอลทุกอย่าง ฮาจี้ สร้างชื่อกับ สเตอัว บูคาเรสต์ ในช่วงปลายทศวรรษที่ 80 แต่จากภาวะความตึงเครียดทางการเมือง ช่วงที่ชาติในยุโรปไม่ค่อยลงรอยกับกลุ่มประเทศที่ปกครองด้วยระบอบคอมมิวนิสต์ กว่าจะได้มาวาดลวดลายฝีเท้าในยุโรป จอร์จี้ ก็มีอายุ 25 ปีเข้าไปแล้ว เขามีโอกาสเล่นให้กับ เรอัล มาดริด และบาร์เซโลนา แต่ก็ไม่ได้นำทีมประสบความสำเร็จมากนัก แต่สำหรับการค้าแข้งกับ กาลาตาซาย ถือเป็นช่วงที่ดีที่สุดสำหรับอาชีพนักเตะ ฮาร์จี้ พาทีมคว้าแชมป์ยูฟ่า คัพ ซึ่งเป็นแชมป์สโมสรยุโรปรายแรกและรายการเดียวในประวัติศาสตร์ของสโมสร
5.มิเชล พลาตินี
ซีเนอดีน ซีดาน อาจเป็น 1 ในยอดนักเตะที่ดีที่สุดตลอดกาล แต่หากจะพูดถึงเพลย์เมกเกอร์ที่สวมเสื้อหมายเลข 10 เราอาจไม่ได้เห็น ซิซู ในยูนิฟอร์มหมายเลขนี้มากนัก เพราะสมัยอยู่กับ ยูเวนตุส เจ้าตัวเลือกเบอร์ 21 เพื่อหลีกทางให้ อเล็กซานโดร เดล ปิเอโร ส่วนสมัยอยู่กับ เรอัล มาดริด ซีดาน เลือกที่จะสวมเสื้อหมายเลข 5 แต่ไม่ว่าจะสวมเสื้อเบอร์อะไร ซีดาน ยังคงเป็นมิดฟิลด์ตัวรุกที่สามารถพลิกโฉมการเล่นของทีมได้ในทุกโอกาส ขณะที่สไตล์การเล่นของ มิเชล พลาตินี ยามที่โชว์ฝีเท้าในสนาม เขาสามารถสร้างโอกาส และจบสกอร์ได้อย่างเฉียบคม การเล่นได้เป็นธรรมชาติทั้งเท้าซ้ายและขวา เพียงแค่เพื่อนร่วมทีมส่งบอลให้เขา ที่เหลือ พลาตินี จะจัดการทุกอย่างเอง  นอกจากนี้ ประธานยูฟ่าคนปัจจุบัน ยังมีจุดเด่นเรื่องการผ่านบอล,การทำประตู,การเลี้ยงหลบคู่ต่อสู้ รวมทั้งการทำประตูจากฟรีคิกที่ง่ายเหมือนจับวาง ผลงานกับยูเว และทีมชาติฝรั่งเศส โดยเฉพาะช่วงปี 1984-1986 เข้าขั้นสุดยอด ได้แชมป์ยูโรเปี้ยนคัพ 1 สมัย และ กัลโช 2 สมัยกับทีมม้าลาย ,นำทีมตราไก่คว้าแชมป์ยุโรปในปี 1984 รวมทั้งกวาดรางวัลยอดเยี่ยมส่วนบุคคล แทบทุกสถาบัน
4.โรแบร์โต้ บาจโจ้
ยอดนักเตะหลายคนไม่ได้สนใจหมายเลขเสื้อที่สวมใส่มากนัก เช่น เมสซี่ พร้อมมอบเสื้อหมายเลข 10 ให้ อาร์ดา ตูราน จอมทัพคนใหม่ที่ย้ายมาร่วมทีม แต่สำหรับ "เทพบุตรเปียทองคำ" โรแบร์โต้ บาจโจ้ เมื่อครั้งย้ายมาอยู่กับอินเตอร์ มิลาน ในปี 1998 เขาได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่เป็นจอมทัพหมายเลข 10 จากทีมงูใหญ่แบบไม่ลังเล โดยมี โรนัลโด้ ตำนานดาวยิงทีมชาติบราซิลสวมเบอร์ 9 แต่ พลาตินี ยกย่องและให้คำจำกัดความ บาจโจ้  ว่าทำหน้าที่เหมือนนักเตะที่สวมเบอร์ 9.5 มีจุดเด่นทั้งการสร้างสรรค์เกมและยิงประตู สไตล์การเล่นของ บาจโจ้ คือการพาบอลทะลุทะลวงจากแดนกลางเข้าไปในพื้นที่อันตราย แม้ โรบี้ จะแจ้งเกิดกับหมายเลข 15 กับทีมอัซซูรีในฟุตบอลโลกปี 1990 ที่อิตาลีเป็นเจ้าภาพ แต่ภาพที่แฟนบอลชินตาคือการมีหมายเลข 10 อยู่ด้านหลังขุดแข่งของเขา หลังจากนั้น บาจโจ้ ได้กลายเป็น 1 ในนักเตะที่คนอิตาเลียนชื่นชอบมากที่สุด อันมาจากการเล่นที่เปี่ยมไปด้วยแท็คติกและพรสวรรค์ แม้จะพลาดจุดโทษในรอบชิงเวิลด์คัพปี 1994 จนทีมได้แค่รองแชมป์ แต่ก็ไม่เคยถูกตำหนิจากแฟนบอล  นอกจากนี้ เบรสชา อีก 1 ทีมที่ บาจโจ้ เคยค้าแข้ง ได้ยกเลิกเสื้อหมายเลข 10 เพื่อเป็นเกียรติให้กับเขา ขณะที่เกมอำลาทีมชาติอิตาลี ในนัดที่พบกับ สเปน เมื่อปี 2004 บาจโจ้ ในวัย 37 ปีได้รับมอบหมายให้เป็นกัปตันทีมในเกมส่งท้าย ก่อนได้รับเสียงปรบมือดังกึกก้อง เมื่อถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนาม 
3.เปเล่
มีเรื่องที่แฟนบอลหลายคนอาจไม่ทราบว่า "ไข่มุกดำ" เปเล่ ได้สวมเสื้อหมายเลข 10 ในฟุตบอลโลกปี 1958 แบบไม่คาดฝันเนื่องจากสหพันธ์ฟุตบอลบราซิลลืมส่งหมายเลขให้ฟีฟ่า ฝ่ายจัดการแข่งขันจึงเลือกเบอร์ให้นักเตะเซเลเซาโดยใช้การสุ่มหมายเลข ฟุตบอลโลกครั้งนั้น เปเล่ ในวัย 17 ปี ไม่ได้ลงเล่น 2 เกมแรกเนื่องจากมีอาการบาดเจ็บรบกวน ก่อนจะกลับมาช่วยทีมได้ในเกมนัดสุดท้ายรอบแบ่งกลุ่มที่พบ สหภาพโซเวียต
2.เฟเรนซ์ ปุสกัส
หลังสิ้นสุดสงครามโลก ครั้งที่ 2 โลกของฟุตบอลเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว มีนักฟุตบอลฝีเท้าดีก้าวขึ้นมาประดับวงการลูกหนังโลก ซึ่ง 1 ในนั้นคือ  เฟเรนซ์ ปุสกัส ต้นฉบับของดาวยิงหมายเลข 10  เพราะจากสถิติการพังประตูให้กับสโมสรและทีมชาติ  ศูนย์หน้าชาวฮังการี ถือเป็นเครื่องจักรถล่มประตูระดับเดียวกับ เปเล่  แม้ต้องลงเล่นเคียงข้างยอดศูนย์หน้าอย่าง ซานดอร์ ค็อกซิส ที่สโมสรฮอนเวด ในฮังการี และ อัลเฟรโด ดิ สเตฟาโน ที่เรอัล มาดริด และแม้จะเป็นศูนย์หน้าที่มีรูปร่างสูงใหญ่ แต่ทดแทนด้วยความคล่องแคล่ว การจบสกอร์ที่เฉียบคม เปี่ยมไปด้วยเทคนิค ส่งให้ ปุสกันส เป็นนักเตะหมายเลข 10 ที่ครบเครื่องคนหนึ่ง นอกจากนี้การเล่นของ ปุสกัส ยังพลิกโฉมให้ฮังการีก้าวขึ้นเป็นยอดทีมของโลกในยุคนั้นด้วยสไตล์ "เมจิคอล แม็กยาร์" ก่อนถูกแทนที่โดย "โททัล ฟุตบอล" ของฮอลแลนด์ ในยุคถัดมา
1.ดิเอโก มาราโดนา

เทวาและซาตานแห่งโลกลูกหนังรายนี้อาจไม่ได้พังประตูถล่มทลาย ไม่ได้คว้าแชมป์มากมายหลายรายการ แต่ไม่มีใครปฏิเสธพรสวรรค์และฝีเท้าอันสุดยอดของ มาราโดนา ที่เปรียบเหมือนศิลปินลูกหนังจนได้รับยกย่องในชื่อ "เดอะ ดิเอซ" หรือ "เดอะ เท็น" ตามเบอร์เสื้อที่เขาสวมใส่ ย้อนไปในฟุตบอลโลกปี 1982 ทีมฟ้าขาว อาร์เจนตินา ส่งรายชื่อนักเตะพร้อมเบอร์โดยเรียงตามลำดับตัวอักษร นักเตะอย่าง ออสซี่ อาร์ดิเลส กองกลางตัวเก่งได้เสื้อหมายเลข 1  และเรื่องเหลือเชื่อคือ มาราโดนา ในวัย 21 ปี ได้เสื้อหมายเลข 10 พอดิบพอดี จากนั้น มาราโดนา ได้ก้าวขึ้นเป็น เทพเจ้าแห่งวงการฟุตบอลอาร์เจนไตน์ กลายเป็นแรงบันดาลใจให้นักเตะรุ่นหลัง แม้ในช่วงหลายสิบปีหลังจะมีนักเตะหลายคนที่ก้าวขึ้นมาเป็นทายาทเสื้อหมายเลข 10 ให้ทีมฟ้าขาว ไม่ว่าจะเป็น อาเรียล ออร์เตก้า,ฮาเวียร์ ซาบิโอลา รวมถึง ฮวน โรมัน ริเคลเม แต่ไม่มีใครมีฝีเท้าใกล้เคียง มาราโดนา แม้แต่น้อย กระทั่งถึงยุคของ ลิโอเนล เมสซี่ เจ้าของเสื้อเบอร์ 10 ทีมชาติอาร์เจนตินาในยุคปัจจุบัน ที่คู่ควรที่สุด




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น