วันอาทิตย์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2559

10 นักเตะเบอร์ 10 ที่ดีสุดของโลกตลอดกาล

10. เอนโซ ฟรานเชสโคลี
ไม่น่าแปลกใจที่นักเตะเจ้าของฉายา “เอล ปรินซิเป้” หรือ “เลอ แปรงซ์” จะติดโผ เพราะหลังจากระเบิดฟอร์มสุดยอดในลีกอาร์เจนตินา ฟรานเชสโคลี ย้ายมาค้าแข้งในฝรั่งเศส พร้อมกับโชว์ผลงานคู่ควรกับตำแหน่งจอมทัพหมายเลข 10  เขาถือเป็นอีก 1 ตำนานนักเตะของโลกฟุตบอล ในสมัยเป็นวัยรุ่นถูก เปญารอล ทีมยักษ์ใหญ่ของอุรุกวัยในบ้านเกิดปฏิเสธฝีเท้า จนต้องข้ามพรมแดนไปพิสูจน์ตัวเองกับริเวอร์เพลท ในลีกอาร์เจนตินา ซึ่งที่นั่น ฟรานเชสโคลี พาทีมคว้าแชมป์ลีก 5 สมัย และโคปา ลิเบอร์ตาดอเรสคัพ 1 สมัย ก่อนได้รับความสนใจจาก ยูเวนตุส ที่หวังดึงไปประสานงานกับ “นโปเลียนลูกหนัง” มิเชล พลาตินี แต่เขากลับเลือกย้ายสร้างความสำเร็จกับ โอลิมปิก มาร์กเซย ที่ฝรั่งเศส และกลายเป็นขวัญใจแฟนบอลโอแอม และแฟนบอลคนสำคัยของมาร์กเซย 1 ในนั้นคือ ซีเนอดีน ซีดาน ที่นำชื่อ เอ็นโซ มาตั้งชื่อให้ลูกชายคนโตฟรานเชสโคลี มีสไตล์การเล่นคล้ายๆกับ ซีดาน สามารถเล่นฟุตบอลได้ทั้ง 2 เท้า  จังหวะพลิกบอล- ล็อคบอลเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ยังทำประตูสวยๆทั้งโอเวอร์เฮดคิก และประตูมหัศจรรย์อีกหลายต่อหลายลูก ส่วนระดับชาติ “เอล ปรินซิเป้” พาทีมจอมโหดไปฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย 2 สมัย, ได้แชมป์โคปา อเมริกา 3สมัย โดยเฉพาะในปี 1995 พาทีมครองตำแหน่งเจ้าทวีอเมริกาใต้ ก่อนประกาศอำลาทีมชาติอย่างยิ่งใหญ่
9.ไมเคิล เลาดรูป
ในยุคของ เลาดรูป หลายชาติในยุโรปมีนักเตะในแบบฉบับจอมทัพ อังกฤษ มี เกลนน์ ฮอดเดิล,เบลเยียม มี เอ็นโซ ซีโฟ ขณะที่ ฮอลแลนด์ ก็ไม่เคยขาดนักเตะสร้างสรรค์เกมไล่ตั้งแต่ รุด กุลลิท จนถึงยุคของ เดนนิส เบิร์กแคมป์ แต่สำหรับโซนยุโรปตอนเหนือ มักไม่ค่อยได้เห็นนักเตะสไตล์เพลย์เมกเกอร์ หมายเลข 10 กระทั่งโลกลูกหนังได้รู้จักกับ ไมเคิล เลาดรูป 1 ในนักเตะเพียงไม่กี่คนที่ได้เล่นกับ บาร์เซโลนา และเรอัล มาดริด คู่ปรับแห่งวงการฟุตบอลสเปน โดยสมัยที่อยู่กับบาร์ซ่า ไมเคิล เลาดรูป เป็นหนึ่งดรีมทีมของ โยฮัน ครัฟฟ์ และได้กลายเป็นอีกหนึ่งตำนานของทีมดังแห่งถิ่นคัมป์ นู ขณะที่ ฮอร์เก้ บัลดาโน กุนซือเรอัล มาดริด ในยุคนั้นยกย่อง เลาดรูป ว่าเล่นบอลฉลาด เอาตัวรอดได้เสมอ ราวกับว่ามีตาอยู่รอบตัว น่าเสียดายที่ เลาดรูป ไม่ได้ชื่นชมความสำเร็จและเกียรติยศในฐานะแชมป์เมเจอร์มากนักเนื่องจากมีปัญหากับกุนซือ โดยในปี 1992 เขาไม่ลงรอยกับ ริชาร์ด โมลเลอร์ นีลเซน จนถูกขับออกจากทีมชาติเดนมาร์ก ชุดที่สร้าง “เทพนิยายเดนส์” คว้าแชมป์ยูโร 1992 นอกจากนี้ เลาดรูป มีปัญหาส่วนตัวกับ โยฮัน ครัฟฟ์ ทำให้ไม่มีชื่อร่วมทีมบาร์เซโลนา ลงเล่นนัดชิงปี 1994 ที่แพ้ เอซี มิลาน แบบราบคาบ
8.ลิโอเนล เมสซี
แม้ว่า เมสซี่ จะได้รับการยกย่องว่าเป็น 1 ในนักเตะที่ดีที่สุดตลอดกาล แต่สไตล์การเล่นของเขาไม่ใช่แบบฉบับจอมทัพหมายเลข 10 โดยในช่วงก้าวสู่ทีมชุดใหญ่ เมสซี สวมเบอร์ 19 ก่อนเปลียนมาเป็นเบอร์ 10 แทนที่ โรนัลดินโญ เจ้าของเดิมในฤดูกาลปี 2008 แต่หากพูดถึงรากฐานฟุตบอลในอดีต นักเตะหมายเลข 10 คือคนที่จะทำเกมอยู่ด้านหลังกองหน้า ทว่าวิธีการเล่นของ เมสซี่ คือความมีอิสระในเกมรุก บ่อยครั้งจะขยับมายืนทางริมเส้นฝั่งขวา และลากบอลเข้าไปทำประตู  ซึ่งหากนำสไตล์การเล่นของ เมสซี มาเปรียบเทียบกับ ดิเอโก มาราโดนา เทพเจ้าแห่งวงการฟุตบอลอาร์เจนไตน์ จะเห็นความแตกต่างชัดเจน  มาราโดนา เปี่ยมไปด้วยพละกำลัง,ฝีเท้า,ทักษะการเลี้ยงบอล และวิสัยทัศน์ในการทำเกม การสืบทอดตำนานหมายเลข 10 ของ มาราโดนา ในทีมชาติอาร์เจนตินา หลายคนมองว่า เมสซี่ โชว์ฟอร์มได้ไม่โดดเด่นเหมือนกับการเล่นให้ บาร์ซา ต้นสังกัด หากดูจากค่าเฉลี่ยการทำประตูต่อเกมระหว่างทีมชาติเปรียบเทียบกับสโมสร ในช่วง 6 ปีหลังสุด
7.ซิโก้
1 ในสุดยอดนักเตะ ที่ไม่เคยสัมผัสแชมป์ฟุตบอลโลก ชื่อเต็มของเขาคือ อาร์เธอร์ อันตูนเญส โคอิมบรา ก้าวขึ้นเป็นนักเตะที่ดีที่สุดตลอดกาลของ ฟลาเมงโก้ ด้วยทักษะและพรสวรรค์ รวมทั้งความเร็วที่เจ้าตัวได้ทักษะนี้มาจากการเล่นฟุตซอล ถึงขนาดที่ ฮอร์เกน เบนอร์ ศิลปินดังของบราซิล แต่งเพลง “Camisa 10 da Gavea” เพื่อเป็นเกียรติให้จอมทัพรายนี้  หลังจากนั้นย้ายมาค้าแข้งในอิตาลีกับ อูดิเนเซ ในกัลโช เซเรีย อา  ในปี 1983 ได้ตำแหน่งรองดาวซัลโวของลีก เป็นรอง มิเชล พลาตินี จอมทัพของม้าลาย ยูเวนตุส แต่ส่วนหนึ่งมาจากการที่ ซิโก้ ลงสนามน้อยกว่า พลาตินี  ส่วนกับทีมแซมบ้า ผลงานดีสุดคือการพาทีมคว้าอันดับ 3 ฟุตบอลโลกปี 1978 นักเตะเจ้าของฉายาเปเล่ขาว มีทักษะเรื่องการทำประตู,สร้างสรรค์โอกาส และการเลี้ยงบอลที่ยอดเยี่ยม น่าเสียดายที่รางวัลความสำเร็จในนามทีมชาติน้อยเกินไป
6.จอร์จี้ ฮารจี้
นักเตะเจ้าของฉายา “มาราโดนา แห่งคาร์ปาเธียน” ถือเป็นฉายาที่ไม่เกินเลยความจริง ด้วยสไตล์การเล่นที่สวยงาม, ความดุดัน รวมทั้งเท้าซ้ายที่รังสรรค์ฟุตบอลทุกอย่าง ฮาจี้ สร้างชื่อกับ สเตอัว บูคาเรสต์ ในช่วงปลายทศวรรษที่ 80 แต่จากภาวะความตึงเครียดทางการเมือง ช่วงที่ชาติในยุโรปไม่ค่อยลงรอยกับกลุ่มประเทศที่ปกครองด้วยระบอบคอมมิวนิสต์ กว่าจะได้มาวาดลวดลายฝีเท้าในยุโรป จอร์จี้ ก็มีอายุ 25 ปีเข้าไปแล้ว เขามีโอกาสเล่นให้กับ เรอัล มาดริด และบาร์เซโลนา แต่ก็ไม่ได้นำทีมประสบความสำเร็จมากนัก แต่สำหรับการค้าแข้งกับ กาลาตาซาย ถือเป็นช่วงที่ดีที่สุดสำหรับอาชีพนักเตะ ฮาร์จี้ พาทีมคว้าแชมป์ยูฟ่า คัพ ซึ่งเป็นแชมป์สโมสรยุโรปรายแรกและรายการเดียวในประวัติศาสตร์ของสโมสร
5.มิเชล พลาตินี
ซีเนอดีน ซีดาน อาจเป็น 1 ในยอดนักเตะที่ดีที่สุดตลอดกาล แต่หากจะพูดถึงเพลย์เมกเกอร์ที่สวมเสื้อหมายเลข 10 เราอาจไม่ได้เห็น ซิซู ในยูนิฟอร์มหมายเลขนี้มากนัก เพราะสมัยอยู่กับ ยูเวนตุส เจ้าตัวเลือกเบอร์ 21 เพื่อหลีกทางให้ อเล็กซานโดร เดล ปิเอโร ส่วนสมัยอยู่กับ เรอัล มาดริด ซีดาน เลือกที่จะสวมเสื้อหมายเลข 5 แต่ไม่ว่าจะสวมเสื้อเบอร์อะไร ซีดาน ยังคงเป็นมิดฟิลด์ตัวรุกที่สามารถพลิกโฉมการเล่นของทีมได้ในทุกโอกาส ขณะที่สไตล์การเล่นของ มิเชล พลาตินี ยามที่โชว์ฝีเท้าในสนาม เขาสามารถสร้างโอกาส และจบสกอร์ได้อย่างเฉียบคม การเล่นได้เป็นธรรมชาติทั้งเท้าซ้ายและขวา เพียงแค่เพื่อนร่วมทีมส่งบอลให้เขา ที่เหลือ พลาตินี จะจัดการทุกอย่างเอง  นอกจากนี้ ประธานยูฟ่าคนปัจจุบัน ยังมีจุดเด่นเรื่องการผ่านบอล,การทำประตู,การเลี้ยงหลบคู่ต่อสู้ รวมทั้งการทำประตูจากฟรีคิกที่ง่ายเหมือนจับวาง ผลงานกับยูเว และทีมชาติฝรั่งเศส โดยเฉพาะช่วงปี 1984-1986 เข้าขั้นสุดยอด ได้แชมป์ยูโรเปี้ยนคัพ 1 สมัย และ กัลโช 2 สมัยกับทีมม้าลาย ,นำทีมตราไก่คว้าแชมป์ยุโรปในปี 1984 รวมทั้งกวาดรางวัลยอดเยี่ยมส่วนบุคคล แทบทุกสถาบัน
4.โรแบร์โต้ บาจโจ้
ยอดนักเตะหลายคนไม่ได้สนใจหมายเลขเสื้อที่สวมใส่มากนัก เช่น เมสซี่ พร้อมมอบเสื้อหมายเลข 10 ให้ อาร์ดา ตูราน จอมทัพคนใหม่ที่ย้ายมาร่วมทีม แต่สำหรับ "เทพบุตรเปียทองคำ" โรแบร์โต้ บาจโจ้ เมื่อครั้งย้ายมาอยู่กับอินเตอร์ มิลาน ในปี 1998 เขาได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่เป็นจอมทัพหมายเลข 10 จากทีมงูใหญ่แบบไม่ลังเล โดยมี โรนัลโด้ ตำนานดาวยิงทีมชาติบราซิลสวมเบอร์ 9 แต่ พลาตินี ยกย่องและให้คำจำกัดความ บาจโจ้  ว่าทำหน้าที่เหมือนนักเตะที่สวมเบอร์ 9.5 มีจุดเด่นทั้งการสร้างสรรค์เกมและยิงประตู สไตล์การเล่นของ บาจโจ้ คือการพาบอลทะลุทะลวงจากแดนกลางเข้าไปในพื้นที่อันตราย แม้ โรบี้ จะแจ้งเกิดกับหมายเลข 15 กับทีมอัซซูรีในฟุตบอลโลกปี 1990 ที่อิตาลีเป็นเจ้าภาพ แต่ภาพที่แฟนบอลชินตาคือการมีหมายเลข 10 อยู่ด้านหลังขุดแข่งของเขา หลังจากนั้น บาจโจ้ ได้กลายเป็น 1 ในนักเตะที่คนอิตาเลียนชื่นชอบมากที่สุด อันมาจากการเล่นที่เปี่ยมไปด้วยแท็คติกและพรสวรรค์ แม้จะพลาดจุดโทษในรอบชิงเวิลด์คัพปี 1994 จนทีมได้แค่รองแชมป์ แต่ก็ไม่เคยถูกตำหนิจากแฟนบอล  นอกจากนี้ เบรสชา อีก 1 ทีมที่ บาจโจ้ เคยค้าแข้ง ได้ยกเลิกเสื้อหมายเลข 10 เพื่อเป็นเกียรติให้กับเขา ขณะที่เกมอำลาทีมชาติอิตาลี ในนัดที่พบกับ สเปน เมื่อปี 2004 บาจโจ้ ในวัย 37 ปีได้รับมอบหมายให้เป็นกัปตันทีมในเกมส่งท้าย ก่อนได้รับเสียงปรบมือดังกึกก้อง เมื่อถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนาม 
3.เปเล่
มีเรื่องที่แฟนบอลหลายคนอาจไม่ทราบว่า "ไข่มุกดำ" เปเล่ ได้สวมเสื้อหมายเลข 10 ในฟุตบอลโลกปี 1958 แบบไม่คาดฝันเนื่องจากสหพันธ์ฟุตบอลบราซิลลืมส่งหมายเลขให้ฟีฟ่า ฝ่ายจัดการแข่งขันจึงเลือกเบอร์ให้นักเตะเซเลเซาโดยใช้การสุ่มหมายเลข ฟุตบอลโลกครั้งนั้น เปเล่ ในวัย 17 ปี ไม่ได้ลงเล่น 2 เกมแรกเนื่องจากมีอาการบาดเจ็บรบกวน ก่อนจะกลับมาช่วยทีมได้ในเกมนัดสุดท้ายรอบแบ่งกลุ่มที่พบ สหภาพโซเวียต
2.เฟเรนซ์ ปุสกัส
หลังสิ้นสุดสงครามโลก ครั้งที่ 2 โลกของฟุตบอลเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว มีนักฟุตบอลฝีเท้าดีก้าวขึ้นมาประดับวงการลูกหนังโลก ซึ่ง 1 ในนั้นคือ  เฟเรนซ์ ปุสกัส ต้นฉบับของดาวยิงหมายเลข 10  เพราะจากสถิติการพังประตูให้กับสโมสรและทีมชาติ  ศูนย์หน้าชาวฮังการี ถือเป็นเครื่องจักรถล่มประตูระดับเดียวกับ เปเล่  แม้ต้องลงเล่นเคียงข้างยอดศูนย์หน้าอย่าง ซานดอร์ ค็อกซิส ที่สโมสรฮอนเวด ในฮังการี และ อัลเฟรโด ดิ สเตฟาโน ที่เรอัล มาดริด และแม้จะเป็นศูนย์หน้าที่มีรูปร่างสูงใหญ่ แต่ทดแทนด้วยความคล่องแคล่ว การจบสกอร์ที่เฉียบคม เปี่ยมไปด้วยเทคนิค ส่งให้ ปุสกันส เป็นนักเตะหมายเลข 10 ที่ครบเครื่องคนหนึ่ง นอกจากนี้การเล่นของ ปุสกัส ยังพลิกโฉมให้ฮังการีก้าวขึ้นเป็นยอดทีมของโลกในยุคนั้นด้วยสไตล์ "เมจิคอล แม็กยาร์" ก่อนถูกแทนที่โดย "โททัล ฟุตบอล" ของฮอลแลนด์ ในยุคถัดมา
1.ดิเอโก มาราโดนา

เทวาและซาตานแห่งโลกลูกหนังรายนี้อาจไม่ได้พังประตูถล่มทลาย ไม่ได้คว้าแชมป์มากมายหลายรายการ แต่ไม่มีใครปฏิเสธพรสวรรค์และฝีเท้าอันสุดยอดของ มาราโดนา ที่เปรียบเหมือนศิลปินลูกหนังจนได้รับยกย่องในชื่อ "เดอะ ดิเอซ" หรือ "เดอะ เท็น" ตามเบอร์เสื้อที่เขาสวมใส่ ย้อนไปในฟุตบอลโลกปี 1982 ทีมฟ้าขาว อาร์เจนตินา ส่งรายชื่อนักเตะพร้อมเบอร์โดยเรียงตามลำดับตัวอักษร นักเตะอย่าง ออสซี่ อาร์ดิเลส กองกลางตัวเก่งได้เสื้อหมายเลข 1  และเรื่องเหลือเชื่อคือ มาราโดนา ในวัย 21 ปี ได้เสื้อหมายเลข 10 พอดิบพอดี จากนั้น มาราโดนา ได้ก้าวขึ้นเป็น เทพเจ้าแห่งวงการฟุตบอลอาร์เจนไตน์ กลายเป็นแรงบันดาลใจให้นักเตะรุ่นหลัง แม้ในช่วงหลายสิบปีหลังจะมีนักเตะหลายคนที่ก้าวขึ้นมาเป็นทายาทเสื้อหมายเลข 10 ให้ทีมฟ้าขาว ไม่ว่าจะเป็น อาเรียล ออร์เตก้า,ฮาเวียร์ ซาบิโอลา รวมถึง ฮวน โรมัน ริเคลเม แต่ไม่มีใครมีฝีเท้าใกล้เคียง มาราโดนา แม้แต่น้อย กระทั่งถึงยุคของ ลิโอเนล เมสซี่ เจ้าของเสื้อเบอร์ 10 ทีมชาติอาร์เจนตินาในยุคปัจจุบัน ที่คู่ควรที่สุด




วันอาทิตย์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2559

10 นักเตะที่แกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีก


10. ปาป้า บูบา ดิย็อป
แฟนบอลของทีม ฟูแล่ม ไม่ได้ตั้งฉายา "เจ้าตู้เสื้อผ้า" ให้กับ ปาป้า บูบา ดิย็อป เพราะว่าเขาดูเท่ หรือว่าแต่งตัวเก่งอะไร แต่แฟน ๆ เรียกเขาว่า "เจ้าตู้เสื้อผ้า"  เนื่องจากเขาสูง 6 ฟุต 5 นิ้ว เท่ากับตู้เสื้อผ้าหลังใหญ่พอดิบพอดี และเป็นนักเตะที่ไม่รู้จักเจ็บปวดพร้อมชนกับฝั่งตรงข้ามได้ตลอดเวลา และคุณลองคิดดูว่าหากถูก "ตู้เสื้อผ้า" ทับแล้วจะเป็นอย่างไร ?
9. สตีฟ โบลด์
แม้ว่าจะไม่ได้เป็นกองหลังที่โด่งดังที่สุดในตำนานแบ็คโฟร์ของ อาร์เซน่อล ในยุค 90 แต่ โบลด์ ก็เป็นหนึ่งในแนวรับที่ผ่านได้ยากที่สุดในยุคนั้น แถมเมื่อถึงเวลาแย่งชิงลูกกลางอากาศ สตีฟ โบลด์ ก็กินเรียบ โดยตอนนี้เขาได้ทำหน้าที่เป็นมือขวาของ อาร์แซน เวนเกอร์ อีกด้วย
8. สติก ทอฟติ้ง
ถึงแม้ว่าเขาจะลงเล่นให้กับ โบลตัน วันเดอเรอร์ส แค่เพียงครึ่งฤดูกาล แต่เขาก็ทำให้ทุกคนจำเขาได้อย่างไม่มีวันลืม โดยเฉพาะผู้เล่นที่เคยโดน สติก ทอฟติ้ง ฝากรอยแข้งเอาไว้ เขาเซ็นสัญญาร่วมทีมในเดือน ก.พ. ปี 2002 แต่สุดท้ายสัญญาของเขาก็ต้องถูกยกเลิกไป และอาจจะเดาไม่ยากว่าเพราะเหตุใด ?
7. นีล รัดด็อก
ปราการหลังพันธุ์ดุของทีม สเปอร์ส, ลิเวอร์พูล และ เวสต์แฮม ผู้โด่งดังตลอดทศวรรษที่ 90 รัดด็อก เจ้าของฉายา"เรเซอร์" ถูกจดจำในฐานะผู้ที่ต่อกรกับ เอริค คันโตน่า และปาทริค วิเอร่า รวมถึงแข้งขาโหดในยุคนั้นได้อย่างถึงพริกถึงขิง โดยเฉพาะวีรกรรมที่โลกต้องจดจำก็คือการศอกใส่ ปีเตอร์ เบียร์ดสลีย์ จนขากรรไกรหักแตก 3 ส่วนในปี 1995 และเสียบ แอนดี้ โคล ถึงขนาดขาหักสองท่อนมาแล้วในปี 1996
6. สจ๊วต เพียร์ซ
ผู้คนเรียกเขาว่า "ไซโค" หรือ "ไอ้โรคจิต" และคงไม่มีคำไหนเหมาะสมกับ สจ๊วต เพียร์ซ มากไปกว่านี้อีกแล้วกับความโหด และความบ้าระห่ำของเขาเมื่อยามอยู่ในสนามที่เข้าขั้นโรคจิตก็ว่าได้ แถมเจ้าตัวก็ยังเคยลงเล่นร่วมกับ นีล รัดด็อก มาแล้วในทัพ "ขุนค้อน"
5.  เนมานย่า วิดิช
คุณต้องมีความตื่นตัวตลอดเวลาหากคุณต้องเผชิญหน้าในสนามกับปราการหลังชาวเซอร์เบียผู้นี้ คุณจะต้องล้ม และลุกขึ้นมาแบบงงงวยแบบนี้จนจบเกมเพราะ คุณจะโดนเสียบสกัด และเข้าปะทะหนักตลอดทั้งเกม
4. โธมัส กราเวอเซ่น
มิดฟิดล์ชาวเดนส์ ย้ายมาร่วมทีม เอฟเวอร์ตัน ในปี 2002 และเขาก็สามารถสร้างชื่อในทันทีจากการทำให้คู่แข่งถูกหามลงเปลในหลายต่อหลายครั้ง ซึ่งความโหดกลายเป็นสัญลักษณ์ของเขาไปแล้วจนกระทั่งย้ายไปร่วมทีม เรอัล มาดริด ในปี 2005
3. วินนี่ย์ โจนส์
วินนี่ย์ โจนส์ ยังคงอยู่ในท็อปไฟว์ผู้เล่นที่โดนใบเหลืองเร็วที่สุดเพียงแค่ 5 วินาที ความโหดของเขาไม่ได้มีอยู่ในสนาม โดยเจ้าตัวเคยกระโดดกัดจมูกของนักข่าวมาแล้วในปี 1995 และไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือวีรกรรมโหดสุดคลาสสิกที่เขาไปบีบเป้าของ พอล แกสคอยน์ จนร้องเสียงหลงมาแล้วในปี 1998 ก่อนที่เจ้าตัวจะหันหลังให้กับวงการลูกหนัง และมุ่งหน้าสู่วงการบันเทิงในเวลาต่อมา
2. รอย คีน
ถือว่าเป็นเครื่องหมายการค้าของผู้เล่นฮาร์ดแมนก็ว่าได้สำหรับ รอย คีน โดยเขาต้องใช้ร่างกายต่อสู้กับ ปาทริค วิเอร่า มาตลอด 10 ปี และที่โหดสุด ๆ ก็คือการจงใจแก้แค้น โดยการเข้าสกัดหนักใส่ อัล์ฟ อิงเก้ ฮาแลนด์ จนไม่สามารถกลับมาลงเล่นได้อีก และในปีเดียวกันเขาก็ไปขว้างบอลใส่ศีรษะของ  อลัน เชียเรอร์ แถมยังเกือบฟาดปากกันด้วย ยังไม่พอยังไปมีปัญหากับ มิค แม็คคาร์ธี่ นายใหญ่ ทีมชาติไอร์แลนด์ จนถูกไล่ออกจากแคมป์ทีมชาติ
1. ดันแคน เฟอร์กูสัน
เฟอร์กูสัน ย้ายจาก กลาสโกว์ เรนเจอร์ส มาร่วมทีม เอฟเวอร์ตัน ในปี 1994 และได้กลายเป็นตำนานของสโมสร และขณะเดียวกันเขาก็เป็นสุดยอดแข้งฮาร์ดแมน โดยเหตุการณ์ที่ทุกคนต้องจำไม่ลืมก็คือ สายตาอันสุดแสนอาฆาตแค้นราวกับปีศาจร้ายในระหว่างที่กำลังบีบคอของ สตีเฟ่น ฟรอยด์ ในปี 2004

10 นักฟุตบอลหล่อที่สุดในโลก! โดย Soccersuck เว็บบอลอันดับ 1 ของไทย


อันดับ 10 Eden Hazard




Eden Hazard มิดฟิลด์พันธุ์พ่อมดทีมชาติเบลเยียมวัย 23 ปี จากสโมสรเชลซี ที่ครั้งหนึ่งฝีไม้ลายมือเคยถูกยกให้เป็นเมสซี่คนใหม่

อันดับ 9 Lewis Holtby



มิดฟิลด์เลือดดอยช์หน้าหล่อวัย 24 ปี จากสโมสรท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ส ฟอร์มในสโมสรกำลังเป็นไปได้สวย รวมถึงดีกรีความฮอตนอกสนาม

อันดับ 8 Cristiano Ronaldo



นับเป็นปีทองสุดๆ สำหรับเจ็ตโด้ Cristiano Ronaldo ซุป’ตาร์ ทีมชาติโปรตุเกส ที่พุ่งชนความสำเร็จเข้าอย่างจังทั้งคว้าถ้วยแชมป์เปี้ยนส์ลีก 

อันดับ 7 Jordan Henderson



ห้องเครื่องฟอร์มเด่น จากรังหงส์แดง Jordan Henderson นอกจากฟอร์มการเล่นปีล่าสุดจะแจ่มแมว เกือบพาลิเวอร์พูลคว้าแชมป์ได้สำเร็จ

อันดับ 6 Oilivier Giroud



เพชรฆาตหน้าหยกทีมชาติฝรั่งเศส ที่แม้แต่เว็บ Soccersuck ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องการตั้งฉายาให้นักฟุตบอล 

อันดับ 5 Marco Reus



ดาวรุ่งฟอร์มปรู๊ดกระฉูดแตกทีมชาติเยอรมัน Marco Reus ที่เพิ่งโชว์ความเก่งกาจกับเสือเหลืองดอร์ทมุนต์ไปหมาดๆ

อันดับ 4 Claudio Marchisio



ป๊อปใสๆ ผ่านไป มาเอาใจคน Like แนวเซอร์กันบ้าง กับหนุ่ม Claudio Marchisio ศูนย์หน้าฟอร์มร้อนทีมชาติอิตาลี

อันดับ 3 Gonzalo Higuain



หนุ่มละตินเข้าวินมาอีกคน ดูท่าแนวหล่อเข้มแบบ Gonzalo Higuain คงถูกใจแม่ยก-พ่อยกเว็บ Soccersuck เป็นพิเศษ

อันดับ 2 Lucas Piazon



เล่นเอาอึ้งกันถ้วนหน้า นอกจากจะตะลึงในฝีเท้าของเจ้าหนู Lucas Piazon แข้งดาวรุ่งจากสโมสรเชลซี ที่ยิ่งดีวันดีคืนแล้ว

อันดับ 1 Aaron Ramsey



อนุญาตให้สาวกกูนเนอร์สเฮดังๆ เพราะชาว Soccersuck ต่างลงคะแนนให้ Aaron Ramsey กองกลางจากสโมสรปืนใหญ่อาร์เซนอล




10 อันดับ นักเตะ “หน้าหล่อ” ที่สาวรอดูในฟุตบอลยูโร 2016

         และแล้วก็มาถึง ศึกฟุตบอลที่ใหญ่ที่สุดในโซนยุโรป อย่าง EURO 2016 (ยูโร 2016) ซึ่งจะจัดขึ้นทุกๆ 4 ปี นอกจากเกมการแข่งขันจาก 24 ทีมที่เข้ารอบสุดท้ายแล้ว ยังมีอีกหนึ่งอย่างที่ผู้คนให้ความสนใจ โดยเฉพาะสาวๆ คือ นักฟุตบอลรูปหล่อจากทุกชาติจะมารวมกันที่นี่ ซึ่งปีนี้นักฟุตบอลแต่ละประเทศมีดีกรีเป็นถึงตัวแทนนักฟุตบอลทีมชาติ ที่มีความฟิตของร่างกายกันถึงขีดสุดแล้ว นักเตะบางคนยังพ่วงความหล่อแบบสุด ทำสาวๆปาดเหงื่อกันเลยทีเดียว วันนี้เราได้คัดเลือกนักฟุตบอลหน้าตาดีของบอลยูโร ปี 2016 มาให้ชม ส่วนจะมีนักเตะรูปหล่อคนไหนเข้าตา ถูกอกถูกใจติดเบอร์ให้เหมือนกันหรือเปล่า ต้องมาดูกัน
Note.  การจัดอันดับนี้ เป็นการจัดอันดับตามความพอใจของเราเอง อาจไม่ตรงกับผลโพลหรือการจัดอันดับจากสำนักอื่นนะคะ ดูขำๆ ไม่ซีเรียส ชีวิตแฮปปี้ค่ะ

10.เฮคเตอร์ เบลเลริน (Hector Bellerin)


แบคขวาดาวรุ่งหน้าคมเข้มจากสโมสรอาร์เซน่อล ส้มหล่นมากมาย หลัง ดาเนียล คาร์บาฮาล แบคขวาตัวจริงเจ็บ สาวๆ เลยได้ยลโฉมของเบลเลริน เป็น 1 ในขุนพลสเปนยูโร 2016 ครั้งนี้

ทีมชาติ     สเปน

สโมสร      อาร์เซน่อล

ตำแหน่ง   กองหลัง (แบคขวา)

IG@ hectorbellerin

CR twimg.com

9.เอเด็น อาซาร์  (Eden Hazard)


ปีกขวาของสโมสรเชลซี รอยยิ้มสดใส ซันชายด์เอามากๆ ค่ะ เรียกฟอร์มกลับมาได้ทันช่วงท้ายฤดูกาล ทำให้ยูโรครั้งนี้ เจ้าตัวถือเป็นนักเตะที่น่าจับตามองทั้งฝีเท้าและหน้าตาอย่างแน่นอน

ทีมชาติ     เบลเยียม

สโมสร      เชลซี

ตำแหน่ง   ปีกขวา

CR http://b.smimg.net/13/13/eden-hazard-belgium.jpg

8.เซร์คิโอ รามอส  (Sergio Ramos)




กัปตันทีมชุดขาว มีความหล่อคมเข้มในสไตล์หนุ่มสเปน พึ่งพาทีมคว้าแชมป์ UCL มาหมาดๆ ในศึกยูโรครั้งนี้ สาวๆ จะได้เห็นเขาเป็นนักเตะตัวหลักของทีมชาติสเปนอย่างแน่นอน รอเชียร์กันได้เลยจ้า

ทีมชาติ     สเปน

สโมสร      เรอัล มาดริด

ตำแหน่ง   เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ

IG @sr4oficial

CR  givemefootball.com

7.เคราร์ด ปิเก้  (Gerard Piqué)


อีกหนึ่งกองหลังแห่งยุค ผู้มีรอยยิ้มเป็นอาวุธ ฤดูกาลที่ผ่านมาเจ้าตัวมีส่วนสำคัญในการพา บาร์เซโลน่า ได้แชมป์ลีค ได้ข่าวว่าเป็นนักเตะที่อ่านเกมเก่ง ขยันทำประตู ก็ไม่รู้ว่า จะอ่านใจเก่งมั้ย แล้วขยันทำคะแนนด้วยหรือเปล่าน๊า

ทีมชาติ     สเปน

สโมสร      บาร์เซโลน่า

ตำแหน่ง   เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ

IG@3gerardpique

CR dailymail.co.uk

6.อดัม ลัลลานา (Adam Lallana


หนึ่งเดียวจากทีมหงส์แดง ผู้มีดวงตาที่จิกสาวคนไหนแล้ว ไม่รอดค่ะ แววตามันฟ้องค่ะ ในส่วนของผลงานที่ผ่านมาก็ไม่เลวเลยทีเดียว โดยเฉพาะนัดยิงประตูชัยในนาทีสุดท้ายใส่นอริส ทำให้ยูโรครั้งนี้ ทีมชาติอังกฤษคงหวังพึ่งเจ้าตัวไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว

ทีมชาติ     อังกฤษ

สโมสร      ลิเวอร์พูล

ตำแหน่ง   กองกลางตัวรุก

IG@officiallallana

CR mirror.co.uk

5.มาริโอ เกิทเซ  (Mario Gotze)



กองกลางตัวรุกกจากสโมสรบาเยิร์น มิวนิค นอกจากถูกหมายหัวว่าเป็นตัวอันตรายในสนามแล้ว รอยยิ้มและดวงตาที่ดูใสๆ แบบนี้ มัดใจสาวให้อยู่มัดคามือได้แน่

ทีมชาติ     เยอรมนี

สโมสร      บาเยิร์น มิวนิค

ตำแหน่ง   กองกลางตัวรุก

IG@gotzemario

CR girlsfriendclub.com

4. อารอน แรมซีย์ (Aaron Ramsey)


นักเตะจอมม้วนรายนี้ ด้วยแววตาแสนซน ขี้เล่น กับลุคที่ดูเซอร์นิดๆ ทำเอาสาวๆ ใจคอไม่ดีเอาซะเลย  ส่วนเรื่องฝีเท้าจัดว่าเล่นดี ซึ่งในยูโรครั้งนี้ ถือเป็นบททดสอบชั้นดี ที่จะได้พบกับนักเตะระดับแนวหน้าของโลก และเป็นบทพิสูจน์ของเจ้าตัว

ทีมชาติ     เวลส์

สโมสร      อาร์เซน่อล

ตำแหน่ง   กองกลาง

IG@aaronramsey

CR .guim.co.uk

3.เชสก์ ฟาเบรกาส (Cesc Fabregas)


นักเตะเท้าชั่งทองจ่ายบอลแม่นอย่างกับจับวาง ส่วนเรื่องหน้าตา ไม่ต้องขายสรรพคุณเยอะ หนุ่มสเปน งานดี  สาวๆ เทใจให้หมดอยู่แล้ว

ทีมชาติ     สเปน

สโมสร      เชลซี

ตำแหน่ง   กองกลางตัวรุก

IG@cescf4bregas

CR 365dm.com

2.โอลิวิเยร์ ชิรูด์ (Olivier Giroud)




กองหน้าจากสโมสรอาร์เซน่อล ผู้มีดวงตามช่างอ้อนเหมือนเด็กๆ สาวบอกตรงกันว่า น่าเอ็นดูเป็นที่สุด แม้ว่าที่ผ่านมา ผลงานไม่ค่อยเข้าตา ก็ต้องมารอดูว่าผลงานในศึกยูโร 2016 จะช่วยกู้หน้ากลับมาได้มั้ย เพราะสาวๆ รอให้กำลังใจอยู่แล้ว

ทีมชาติ     ฝรั่งเศส

สโมสร      อาเซน่อล

ตำแหน่ง   กองหน้า

IG@giroud_olivier

CR bleacherreport.net

1.คริสเตียโน โรนัลโด (Cristiano Ronaldo)


เบอร์หนึ่งมาหลายปีดีดักแล้ว เรียกว่า รองจาก เดวิท แบคแฮม แล้วก็ต้องคนนี้เท่านั้น คุณค่าที่โรนัลโด้ คู่ควร นอกเก่งเรื่องฝีเท้าแล้ว หน้าตาก็หล่อเป็นอันดับต้นๆ เช่นกัน

ทีมชาติ     โปรตุเกส

สโมสร      เรอัล มาดริด

ตำแหน่ง   ปีกซ้าย – กองหน้า

IG@cristiano

CR bleacherreport.net

แม้ว่าฟุตบอลจะเป็นกีฬาของผู้ชายก็จริงๆ แต่ก็ต้องยอมรับเลยว่า นักบอลหน้าตาดี ก็เป็นอีกหนึ่งกระแสที่ทำให้สาวๆ หันมายอมใจอ่อนดูบอลก็เป็นได้ ส่วนใครที่ได้ยลโฉมเหล่าเทพบุตรนักบอลแล้ว จะเป็น FC คนไหน ก็ต้องรีบจับจองแล้วละ ไม่งั้นระวังจะโดนคนอื่นชิงไปมโนกันก่อนนะจ้ะสาวๆ

วันเสาร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2559

10 นักเตะดาวรุ่งน่าจับตามองในยูโร 2015

10.อองโตนี่ มาร์ซิยาล (ฝรั่งเศส (เจ้าภาพ))

สโมสร: แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

อายุ: 20 ปี

ติดทีมชาติ (ประตู): 8  นัด (0)

ส่วนสูง: 181 เซนติเมตร

น้ำหนัก: 76 ก.ก.



9.เดลเล่ อัลลี่ (อังกฤษ)

สโมสร: ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์

อายุ: 20 ปี

ติดทีมชาติ (ประตู): 7 นัด (1 ประตู)

ส่วนสูง: 188 เซนติเมตร

น้ำหนัก: 73 ก.ก.



8.เลรอย ซาเน่ (เยอรมนี)

สโมสร: ชาลเก้ 04

อายุ: 20 ปี

ติดทีมชาติ (ประตู): 2 นัด (0)

ส่วนสูง: 183 เซนติเมตร

น้ำหนัก: 75 ก.ก.



7.เรนาโต้ ซานเชส (โปรตุเกส)

สโมสร: เบนฟิก้า

อายุ: 18 ปี

ติดทีมชาติ (ประตู): 2 นัด (0)

ส่วนสูง: 176 เซนติเมตร



6.ฮาคาน คัลฮาโนกลู (ตุรกี)

สโมสร: ไบเออร์ เลเวอร์กูเซน

อายุ: 22 ปี 

ติดทีมชาติ (ประตู): 18 (6 ประตู)

ส่วนสูง: 176 เซนติเมตร

น้ำหนัก: 76 ก.ก.



5.คิงสลี่ย์ โคมอง (ฝรั่งเศส)

สโมสร: บาเยิร์น มิวนิค

อายุ: 19 ปี

ติดทีมชาติ (ประตู): 4 นัด (1 ประตู)

สวนสูง: 178 เซนติเมตร

น้ำหนัก: 71 ก.ก.



4.บรีล เอ็มโบโล่ (สวิตเซอร์แลนด์)

สโมสร: บาเซิ่ล

อายุ: 19 ปี

ติดทีมชาติ (ประตู): 9 นัด (1 ประตู)

ส่วนสูง: 185 เซนติเมตร

น้ำหนัก: 84 ก.ก.



3.ยานนิกค์ คาร์ราสโก้ (เบลเยี่ยม)

สโมสร: แอตเลติโก มาดริด

อายุ: 22 ปี

ติดทีมชาติ (ประตู): 4 นัด (0)

ส่วนสูง: 180 เซนติเมตร

น้ำหนัก: 67 ก.ก.



2.อาร์คาดิอุสซ์ มิลิค (โปแลนด์)

สโมสร: อาแจ็ก อัมสเตอร์ดัม

อายุ: 22 ปี

ติดทีมชาติ (ประตู) : 24 นัด (10 ประตู)

ส่วนสูง: 186 เซนติเมตร

น้ำหนัก: 78 ก.ก.



1.เฮคเตอร์ เบลเยริน (สเปน)

สโมสร: อาร์เซนอล

อายุ: 21 ปี

ติดทีมชาติ (ประตู): 1 นัด (0)

ส่วนสูง: 177 เซนติเมตร

น้ำหนัก: 74 ก.ก.